1. ราคาทองหน้าเหมือง ปรับตัวสูงขึ้น จาก 900 USD เป็น 1,200-1,400 USD และ การเปิดเหมืองใหม่ ไม่อนุญาต ให้ทำ เพราะปัญหาโลกร้อน อีกทั้ง โรคระบาด ทำให้กำลังการผลิต ไม่เต็มที่ การขนส่ง มีพื้นที่จำกัด
2. รัฐบาลต่างๆ เช่น จีน และ ยุโรป มีการใช้ทองไปคำ้ประกัน เงินดิจิตอล คลิปโต เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้การอย่างกว้างขวาง เพื่อรองรับ ความต้องการ การใช้งานในอนาคต ที่จะมีความต้องการมากขึ้น
3. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ใน ยุโรป อเมริกา จีน และ การทำงาน WFH ในสภาวะโรคระบาด ผลักดันให้สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวอย่างมาก ซึ่งทองคำเป็น วัตถุดิบหลัก ในการผลิต ทำให้มีความต้องการใช้ทองสูงขึ้น
4. โรคระบาดในต่างประเทศ เริ่มดีขึ้น และ ผู้คนเริ่มใช้เงิน ซื้อสินค้า ประเภท เครื่องประดับ มากขึ้น โดยเฉพาะ กลุ่มจิวเวลรี่ จึงทำให้ต้องการให้วัตถุดิบพวก ทองคำ มากขึ้น เช่นกัน เพื่อใช้ในช่วง คริสต์มาส และ ปีใหม่ ตรุษจีน
5. อเมริกา กลัวเงินเฟ้อ และ ค่าเงิน USD ไม่แน่นอน และ กังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ย
6. วิกฤต Evergrand
7. ราคาน้ำมัน ที่ปรับตัวสูงขึ้น
8. อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น รถยนต์ ระบบขนส่งทางราง อากาศยาน เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ระบบสื่อสาร ต่างๆ ล้วนแต่ต้องใช้ ทองคำ ในการผลิต
9.กองทุนปั่นราคา เพราะฉะนั้น ต้องขึ้นคำเตือนว่า…..
“การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญานในการลงทุนนะครับ”