ราคาทองสปอทพุ่งทะลุ $1,510 สูงสุดในรอบกว่า 6 ปี

ราคาทองสปอทพุ่งทะลุ $1,510 สูงสุดในรอบกว่า 6 ปี
8 สิงหาคม 2562
ราคาทองพุ่งขึ้นต่อเนื่องกว่า 2% สูงสุดที่$ 1,510 สูงสุดในรอบกว่า 6 ปี จากนักลงทุนแห่เข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ผนวกกับจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

โดยค่าเงินดอลลาร์ดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 106 เยนตามการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยต่างๆทั่วโลกล้วนบ่งชี้ว่าราคาทองจะยังคงแข็งแกร่งในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า โดยขณะนี้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง, ดอลลาร์อ่อนค่า, มีความขัดแย้งทางการค้า รวมทั้งเกิดความตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย” นายโฮวี ลี นักวิเคราะห์จากธนาคาร OCBC กล่าวอีกว่า ปัจจัยความเสี่ยงต่างๆกำลังผลักดันราคาทองให้พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี และทำให้นักลงทุนปรับพอร์ทโดยใช้กลยุทธ์หันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในระยะใกล้ ส่งผลให้กองทุนต่างๆหันเข้าซื้อทอง

นายแจน แฮตซิอุซ หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงยืดเยื้อต่อไป และไม่มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า และข่าวที่ออกมานับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีต่อสินค้าจีนเพิ่มขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนต่างมีจุดยืนที่แข็งกร้าว คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่บรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า

และ การที่จีนสั่งระงับการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ และตัดสินใจปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ ถือเป็นการตอบโต้ต่อคำขู่เรียกเก็บภาษีครั้งล่าสุดของปธน.ทรัมป์
โดย
เจ้าหน้าที่จีนมีท่าทีแข็งกร้าวในการเจรจา และหวังรอจนกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเสร็จสิ้นในปีหน้า ก่อนที่จะทำการคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า สิ่งนี้จึงทำให้สหรัฐและจีนไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าในเร็วๆนี้

ทั้งนี้ การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยปธน.ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี และรัฐบาลจีนยังได้สั่งให้บริษัทของรัฐระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ